โลกนี้มีองุ่นกว่า 5,000 สายพันธุ์ที่ทำไวน์ได้ดี องุ่นที่เราทานกันปกตินั้นมีขนาดเมล็ดที่ใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด ส่วนองุ่นสำหรับทำไวน์นั้นจะมีขนาดเล็กกว่า ซึ่งองุ่นสองประเภทนี้ไม่ได้แตกต่างกันเพียงแค่ภายนอกเท่านั้น เพราะรสสัมผัสก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง “พันธุ์องุ่นทำไวน์ยอดนิยม” ทั้ง 10 สายพันธุ์ด้วยกันเมื่อท่านทำความรู้จักกับองุ่นเหล่านี้อย่างคุ้นเคยแล้ว รับรองว่า จะทำให้ท่านจะเริ่มสนุกกับการเลือกดื่มไวน์ ที่ตรงกับความต้องการของตัวเองได้มากขึ้น และพร้อมที่จะลิ้มลองไวน์จากองุ่นพันธุ์อื่นๆ ต่อไป ถ้าอย่างนั้นแล้ว เราไปเริ่มต้นกันที่พันธุ์องุ่นทำไวน์แดง

10 สายพันธุ์องุ่นยอดนิยม ที่ใช้สำหรับทำไวน์

สายพันธุ์องุ่น ทําไวน์แดงยอดนิยม

1. กาแบร์เน โซวีญง (Cabernet Sauvignon)

องุ่นพันธุ์ กาแบร์เน โซวีญง (Cabernet Sauvignon) เป็นพันธุ์องุ่นท้องถิ่น มีต้นกำเนิดจากแคว้นบอร์โด ประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันนี้ มันได้กลายเป็นพันธุ์องุ่น ที่นิยมปลูกไปทั่วโลก และมักจะใช้ในการผลิตไวน์แดง ประเภทฟูลบอร์ดี้ ค่อนข้างมีรสฝาด จบด้วยรสเผ็ดนิดๆ คล้ายพริกไทย และมักจะให้รสชาตของผลเบอร์รี่สีเข้ม

2. ซีราส (Shiraz)

องุ่นพันธุ์นี้ มีต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศส เช่นเดียวกับ องุ่นพันธุ์กาแบร์เน โซวีญง (Cabernet Sauvignon) แต่ถ้าเทียบกันแล้ว ไวน์แดงจากองุ่นพันธุ์ ซีราส (Shiraz) มักจะเป็นไวน์ประเภทฟูลบอดี้ ที่มีสีที่เข้มกว่า ฝาดน้อยกว่าและจบท้ายอย่างนุ่มนวล เหมาะกับคนที่ชื่นชอบรสผลไม้ เพราะองุ่นพันธุ์นี้ มักจะให้รสสัมผัสหนักแน่นของผลไม้ เช่น บลูเบอร์รี่ และมะกอกดำ

3. แมร์โล (Merlot)

ไวน์แดง จากองุ่นพันธุ์แมร์โล (Merlot) โดดเด่นที่ความนุ่มนวล ด้วยสีแดงสว่าง มีความฝาดบางๆ และมีบอดี้ ตั้งแต่มีเดี้ยม ไปจนถึงฟูลบอดี้ (Full Bodied) แต่อย่างไรก็ตาม รสชาติของไวน์แดงจากองุ่นพันธุ์นี้ มักจะแตกต่างกันไปตามแต่สภาพภูมิอากาศที่ปลูก หากมาจากที่ที่มีอากาศเย็น ก็มักจะเป็นไวน์ที่มีความฝาดสูง แต่หากมาจากพื้นที่ที่อากาศอบอุ่น ก็มักจะให้ความฝาดที่น้อย

4. ปิโน นัวร์ (Pinot Noir)(Merlot)

องุ่นพันธุ์ ปิโน นัวร์ (Pinot Noir) มักจะมีราคาที่สูงกว่าไวน์แดงจากองุ่นพันธุ์อื่น เนื่องจากปิโน นัวร์ (Pinot Noir) เป็นองุ่นที่ค่อนข้างอ่อนแอ ติดเชื้อง่ายและ ง่ายต่อการกลายพันธุ์ จึงต้องการความเอาใจใส่อย่างสูง สีของไวน์แดง จากองุ่นพันธุ์นี้ มักจะมีสีแดงสว่าง, มีบอดี้ค่อนข้างเบาและ มีรสผลไม้ที่สดชื่น จึงให้สัมผัสสุดท้ายที่ยาวนาน และแสนนุ่มนวล

สายพันธุ์องุ่น ทําไวน์ขาวยอดนิยม

5. โซวีญง บล็อง (Sauvignon Blanc)

พันธุ์องุ่น ไวน์ขาว โซวีญง บล็อง (Sauvignon Blanc) มีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศฝรั่งเศส แคว้นบอร์โด องุ่นพันธุ์นี้ มักจะมีสีอมเขียว รสชาติเข้มข้น คล้ายกับแอปเปิ้ลเขียว, มะนาว, กีวี , และพีช ซึ่งแตกต่างกันไปตามความสุกขององุ่น ส่วนสิ่งที่ทำให้องุ่นพันธุ์นี้โดดเด่นคือ เรื่องกลิ่นของพริกหยวก, ใบโหระพา, ผักชีฝรั่ง และตะไคร้ เป็นต้น

6. ชาร์ดอเน (Chardonnay)

พันธุ์องุ่น ไวน์ขาว ชาร์ดอเน (Chardonnay) ได้รับฉายาว่า “ราชินีแห่งองุ่นเขียว” นิยมนำมาทำไวน์ขาว และเป็นส่วนผสมหลัก ที่มักจะขาดไม่ได้ในการทำแชมเปญ หรือสปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) ความโดดเด่นของชาร์ดอเน (Chardonnay) อยู่ที่กลิ่นหอมมันของวานิลลา, เนย และมะพร้าว ไวน์ขาวจากชาร์ดอเน (Chardonnay) บางยี่ห้อ จะให้รสสัมผัสถึงความมันของครีมด้วย

7. รีสลิง (Riesling)

ไวน์ขาวจากองุ่นพันธุ์ รีสลิง (Riesling) มักจะโดดเด่นด้วยเรื่องของกลิ่นหอมคล้ายกับผลไม้ แต่ให้รสชาติเปรี้ยวคล้ายกับน้ำมะนาว แต่อย่างไรก็ตาม ท่านก็สามารถหาไวน์รีสลิง (Riesling) แบบกึ่งดราย หรือ ไวน์หวานได้เช่นกัน ไวน์จากองุ่นพันธุ์นี้ มักจะมีกลิ่นแอปเปิ้ลเขียว, พีช, มะนาว, หญ้าที่ถูกตัดสด ๆ, และน้ำมัน แต่ถ้าเป็นรีสลิงหวาน ก็จะมีกลิ่นของน้ำผึ้ง, ดอกไม้และผลไม้สุกด้วย พันธุ์องุ่นสปาร์คกลิ้งไวน์ยอดนิยม (Popular Sparkling Wine Grape Varieties)

8. เกลียรา (Glera)

องุ่นพันธุ์ เกลียรา (Glera) คือ องุ่นขาวพันธุ์ดั้งเดิมจากประเทศอิตาลี มักนำมาทำสปาร์คกลิ้งไวน์ เช่น โปรเซสโก้ (Prosecco) โดยส่วนใหญ่จะปลูกอยู่ในแคว้นเวเนโต้ ของประเทศอิตาลี

9. มอสคาโต้ (Moscato)

องุ่นพันธุ์ มอสคาโต้ (Moscato) เป็นองุ่นพันธุ์เก่าแก่ สามารถปลูกได้ทุกที่ทั่วโลก โด่งดังมาจากกลิ่น หวานหอม ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งนักเคมีได้ ค้นพบสารประกอบทางเคมีเรียกว่า “ไลนาลูล” ที่พบได้ใน มิ้น, ดอกส้ม และอบเชย หากคุณต้องการสปาร์คกลิ้งไวน์กลิ่นหอมสดชื่น, ค่อนข้างหวาน และมีปริมาณแอลกอฮอล์ค่อนข้างน้อย (5-7%) สปาร์คกลิ้งไวน์จากองุ่นพันธุ์มอสคาโต้ (Moscato) คือคำตอบ

10. ปิโน บล็อง (Pinot Blanc)

ปิโน บล็อง (Pinot Blanc) เป็นพันธุ์องุ่นขาว ที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากองุ่นพันธุ์ ปิโน นัวร์ (Pinot Noir) องุ่นพันธุ์นี้ มักจะถูกนำมาทำไวน์ขาวในแคว้นเบอร์กันดี และนำมาเป็นส่วนผสมในการทำแชมเปญซึ่งปัจจุบัน ปิโน บล็อง (Pinot Blanc) ได้กลายเป็นส่วนผสมหลักในการทำสปาร์คกลิ้งไวน์ในหลากหลายพื้นที่ ความโดดเด่นของปิโน บล็อง (Pinot Blanc) อยู่ที่กลิ่นหอมของผลไม้ ซึ่งมักจะเป็นกลิ่นของแอปเปิ้ล, มะนาว รวมไปถึงดอกไม้ด้วย

 

ขอขอบคุณขอมูลจาก

http://winevenezia.blogspot.com/2018/06/10.

htmlhttps://food.trueid.net/detail/ZkywZ6pdWNVM

https://www.dooddot.com/wine-tips-6-grapes/

ที่ Casa Mio Music & Wine Bar มีเบียร์ Hoegaarden Original & Rosé แบบสด และไวน์เลิศรสหลายแบรนด์ พร้อมกับอาหารอร่อย 

ข้อมูลเพิ่มเติม และจองโต๊ะ 

เชียงราย 0956809494 

พะเยา 0970985917