1.THER Brewing Woman Project
- ถึงนี่จะไม่ใช่เบียร์ตัวแรก ในประวัติศาสตร์โลก ที่ถูกคราฟต์ขึ้น โดยแก๊งค์หญิงล้วน ล่าสุดเพื่อแสดงให้เห็นถึง woman power ในวงการคราฟต์เบียร์ไทย THER Brewing Woman Project จึงได้ร่วมกันสร้างสรรค์ THER เบียร์ใหม่จากฝีมือบริวเวอร์หญิงล้วนจาก 4 ค่าย คือ Max Beer, Beernista, X-Beer, และ Brewrapha Brewing โดย THER – Rosebud Pale Ale เป็นเบียร์ตตัวแรกที่จะออกมา สื่อถึงตัวตนของความเป็น “เธอ” โดยมีเอกลักษณ์หลัก คือ กลิ่นหอมของดอกไม้ และ ผลไม้เมืองร้อน ผู้หญิงก็คราฟเบียร์ได้ ไม่แพ้ผู้ชายเหมือนกันนะ
2.Udomsuk
- อุดมสุขเบียร์ คือ คราฟต์ไทย เบอร์แรกๆ ที่บุกเบิกวงการ คราฟต์เบียร์ แต่อาจจะหาดื่มยากสักหน่อย เพราะมักจะเจอตามงาน หรือ มีวางจำหน่ายค่อนข้างจำกัดมาก แต่อุดมสุข เป็นตัวแทนของรสชาติขมดุดันตามสไตล์อเมริกัน สไตล์ที่ต้องลองคือ IPA อย่าง West Coast IPA แต่ด้วยความที่อุดมสุขมักจะมีสไตล์ใหม่หมุนเวียนอยู่ตลอด เราแนะนำว่าอย่ายึดติด และลองสไตล์ที่ใกล้เคียงกับความชอบ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน แต่ต้องหาให้เจอก่อนนะ
3.Golden Coins
- เป็นอีกหนึ่งตัวท็อปของวงการ ผู้เป็นทั้งกลุ่มคนบุกเบิกการทำ คราฟต์เบียร์ และ เปิดบาร์ที่เสิร์ฟเฉพาะไทย คราฟต์เบียร์ เท่านั้นแห่งแรกใน กรุงเทพฯ Golden Coins ทำเบียร์สไตล์มาตรฐานออกมาหลายตัว และ คนชื่นชอบกันเยอะ ที่พลาดไม่ได้เลยคือ IPA ที่ค่อนข้างดื่มง่าย แต่ ยังคงคาแรกเตอร์ขมลึกแบบต้นฉบับไว้ เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความขม เหมือนกาแฟ ตัวนี้แนะนำเลย
4.D’X
- Genesis IPA เป็นเบียร์ตัวใหม่ จากผลงานจากคอลแลปส์กันของ X Beer และ Ducky Fly ที่ลงทุนไปผลิตเบียร์ตัวนี้กันถึงออสเตรเลีย ถึงเราจะยังไม่ได้ลองชิมเบียร์ตัวนี้ (แน่สิ ก็เค้ายังไม่เปิดตัว) แต่คาดคะเนได้จากเบียร์ตัวที่ผ่านๆ มาของทั้งคู่ บวกกับฉลากที่เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่าอาจจะโดนดูดให้ลอยเข้าไปในห้วงอวกาศได้ง่ายๆ น่าจะรสขมเข้ม ฮอปส์หนักหน่วง โดย Genesis IPA ระวังอย่าดื่มมากจนเกินไปเพราะขาของคุณอาจจะหายได้
5.Chiang Mai Beer
- ชื่อเชียงใหม่แต่มาพร้อมสไตล์เบียร์ในแบบของเยอรมัน ถือว่าเป็นลูกครึ่งที่มาพร้อมความลงตัวมากครับสำหรับขวดนี้ เบียร์จากเชียงใหม่ที่ไปผลิตในประเทศลาว ก่อนส่งกลับมาขายในไทยแบบถูกกฏหมาย โดยมีรสยืนพื้น 2 ตัวคือ Red Truck IPA และ Chiang Mai Weizen นุ่มลื่นสำหรับคนไม่ถนัดขม ใครที่มองหาเบียร์ที่ดื่มง่ายซ่าเบา ๆ หอมกลิ่นกล้วยแบบนวล ๆ และปิดท้ายด้วยกลิ่นเครื่องเทศที่แสนจะมีเอกลักษณ์ก็ต้องไม่พลาดขวดนี้ แถมข้าวสาลีจากอำเภอฝางบ้านเรายังเป็นวัตถุดิบหลักของเบียร์ขวดนี้อีกด้วย
6.Sandport
- อีกหนึ่งเบียร์ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในรสชาติมาก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคราฟเบียร์ประเทศไทยที่มีชื่อเสียงในเรื่องของรสชาติที่ดีเยี่ยม แต่กลับหาซื้อได้ยากมาก โดยเฉพาะในรสชาติ Too much coffee Porter ที่เป็นเบียร์เข้มข้นสูตรกลิ่นหอมกาแฟ แล้วกลายมาเป็นรสชาติที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ที่ไม่ต้องเป็นคอกาแฟหรือชอบเบียร์ดำก็เข้าใจได้ง่ายๆ ดังนั้นเมื่อผสมผสานกับความขมและความเข้มของเบียร์จึงเข้ากันได้ดีมากถือว่าเป็นอีกหนึ่งรสชาติแปลกใหม่ที่หาได้ยากในคราฟเบียร์ยุคนี้ แต่ตัวแบรนด์เองก็ผลิตออกมาขายค่อนข้างน้อยด้วยเช่นกัน
7.Devanom
- เทพพนมเป็นเบียร์ชื่อใหม่แต่เก๋าในวงการเบียร์บ้านเรามาตั้งแต่เริ่มต้น ที่เป็นแบบนี้เพราะสองพี่น้องนักต้มใช้เวลาทั้งหมดฝึกฝนจนได้เบียร์ที่ได้รสชาติมาตรฐานตามที่ต้องการ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์เก่าแก่ของวงการคราฟเบียร์ประเทศไทย ถือกำเนิดมาจากสองพี่น้องที่มีฝีมือด้านการทำคราฟเบียร์ที่ได้รสชาติดีและเป็นรสชาติมาตรฐานในแบบที่นักดื่มต้องการ ที่สำคัญคือแบรนด์นี้ได้รางวัลมาอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Best IPA จากเวทีการประกวด Beer Champ Fight Club และรางวัล Wheat Beer จากเวทีเดียวกัน นอกจากนี้อีกหนึ่งความเด่นของเบียร์ค่ายนี้คือการมีฟาร์มเพาะวัตถุดิบทำคราฟเบียร์เป็นของตัวเองอีกด้วย
8.MAHANAKHON
- สำหรับคราฟต์ เบียร์ MAHANAKHON นั้นขอนำเสนอเบียร์ดื่มง่าย มหานคร เป็นเบียร์ที่เล่นกับวัตถุดิบไทยๆ อย่างชัดเจนในทุกตัวที่ผลิตออกมา รสชาติเน้นความสดชื่น บอดี้ไม่หนัก เหมาะกับอากาศร้อนในประเทศไทย รสชาติเบียร์ทุกตัวของแบรนด์นี้จึงไม่ขมมาก ดื่มแล้วสดชื่น และยังสร้างสรรค์โดยการเพิ่มจุดเด่นพิเศษที่ Adjunct ผลไม้ไทย ข้าวไทย เครื่องเทศไทย และทุกอย่างที่หาได้ในตลาดสดในประเทศไทยที่คุณอาจคาดไม่ถึง MAHANAKHON มีตัวเด่นๆ อยู่ 2 ตัว คือ White Ale และ Simply Red Ale สำหรับ Thai White Ale รสชาติจะออกไปทาง fruity อ่อนๆ ดื่มง่าย และมีกลิ่นส้มเขียวหวานจางๆ ผสมอยู่ ตัวนี้จัดแอลกอฮอล์ไป 5.5% ส่วน Simply Red Ale ผสมข้าวกล้องหอมมะลิแดง ตัวนี้ออกไปทาง hoppy มีแอลกอฮอล์ 6%
9.Full Moon Brewworks (Chalawan Pale Ale)
- คราฟต์เบียร์ที่มีแรงบันดาลใจจากตำนานพื้นบ้านไทย เบียร์คราฟต์ไทย โดยนำบุคลิกของชาละวันมาดีไซน์เป็นรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนได้เบียร์ Pale Ale ที่หลายคนยกให้เป็นเบียร์ที่มีความสมดุลในรายละเอียด ทั้งความเข้มข้นของรสชาติและความหอมละมุนกับกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2010 ในฐานะ Microbrewery ที่จังหวัดภูเก็ต (และปัจจุบันก็ยังเปิดให้บริการอยู่) ก่อนจะดำเนินการผลิตบรรจุขวดครั้งแรก เมื่อกลางปี 2015 ที่ผ่านมาในชื่อ Chalawan Pale Ale ที่พัฒนามาจากสูตรที่เคยขายแบบสดที่ร้าน โดยไปผลิตกันที่โรงเบียร์ในออสเตรเลีย และนำเข้ามาแบบถูกกฎหมายเป็นเจ้าแรกๆ นับว่าเป็นคลื่นใต้น้ำแห่งวงการก็ใช่ เพราะชาละวันเป็นเบียร์ที่มานิ่งๆ ทำอย่างถูกกฏหมาย และรสชาติที่โดดเด่น หอมติดกลิ่นลิ้นจี่ขวดนี้ได้รับรางวัลเหรียญทองจากเวทีโลกอย่าง World Beer Awards 2016 อีกด้วย
10.Triple Pearl
- ถือว่านี่เป็นช่วงท็อปฟอร์มสุดๆ ของบริวเวอร์เจ้านี้ หนึ่งในนักเรียนรุ่นแรกของ Chit Beer เกาะเกร็ด ที่ถนัดเบียร์สไตล์ Wheat Beer มากเป็นพิเศษ ที่ได้รับรางวัล Best Wheat Bee ของเวที Beer Champ Fight Club ปีนี้ เป็นหนึ่งในคราฟเบียร์ชื่อดังและเป็นรุ่นใหม่ไฟแรงที่สามารถนำเสนอเอกลักษณ์ของรสชาติตัวเองออกมาได้อย่างดีเยี่ยม จึงทำให้ผู้ที่ได้ลิ้มรสรู้สึกติดใจเป็นอย่างมากอย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว เบียร์คราฟต์ไทย
เบียร์คราฟต์ไทย ก็มีดีไม่แพ้ชาติใด ไปลองหาซื้อมาชิมกันได้นะครับผม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://themomentum.co/happy-toplist-thai-craft-beer-10/
10 อันดับ คราฟต์เบียร์ไทย ที่ไม่ควรพลาด!
รวม 10 คราฟต์เบียร์ไทยที่เปิดตัวพร้อมๆ กันเดือนนี้
Casa Mio Music & Wine Bar บรรยากาศดีดนตรีเพราะ มีเบียร์ Hoegaarden Original & Rosé แบบสด และไวน์เลิศรส พร้อมกับอาหารอร่อย
ข้อมูลเพิ่มเติม และจองโต๊ะ
เชียงราย 0956809494
พะเยา 0970985917
เทศกาล Saint Patrick’s Day การเฉลิมฉลองวันนักบุญแพทริก
13/03/2024
ไม่มีความเห็น
เทศกาล Saint Patrick̵
งานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งที่ 3
15/12/2023
ไม่มีความเห็น
งานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนาน
เปิดพิกัดร้านอาหารเชียงราย แฮงเอาท์ ปาร์ตี้ชิลล์ๆ ที่ คาซ่า มีโอ เชียงราย
14/10/2023
ไม่มีความเห็น
เชียงราย เมืองเหนือสุดในไ
Tagged เบียร์ไทย