ทำไมร้านอาหารบางร้านถึงมีเบียร์ที่อร่อยมากกว่าร้านอาหารร้านอื่น? ทั้ง ๆ ที่เบียร์ที่นำมาเสิร์ฟก็เป็นเบียร์ชนิด และ ประเภทเดียวกัน รู้ หรือ ไม่ว่าความอร่อยของรสชาติเบียร์ที่แตกต่างกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือ เป็นแค่เรื่องของบรรยากาศ อันที่จริง “ความลับ” มันอยู่ที่ตัวแก้วเบียร์ เพราะแก้วเบียร์ที่ดีจะสามารถขับเน้นรสชาติ และ กลิ่นของเบียร์ให้อร่อยมากขึ้นเพื่อเป็นการช่วยเพิ่มสุนทรียรสของการดื่มเบียร์ได้อีกด้วย
ประเภทแก้วเบียร์
1. Tankard
เรียกได้ว่าเป็นแก้วเบียร์มาตรฐาน โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว แก้วแบบนี้ ช่วงก้นแก้ว จะหนา ทรงตรง อังกฤษเป็นผู้คิดค้น บางครั้งทำด้วยเงิน หรือพิวเตอร์
2. Pilsner
เป็นแก้วที่มีลักษณะสูงโปร่งบาง จริงๆ ก็จะมีไซส์ และรูปแบบที่หลากหลายอยู่เหมือนกัน แต่ลักษณะก็คือจะเน้นความสูง และเพรียวของตัวแก้ว เป็นแก้วที่นัก ดื่มเบียร์ในยุโรปและอเมริกันนิยมใช้ดื่ม เหมาะกับเบียร์หลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น Lager, Light Beer, American Pale Ale และอีกมากมายซึ่งส่วน ใหญ่ก็จะเน้นไปที่ Lager
3. Mug
เป็นแก้วยอดนิยมอีกหนึ่งประเภท ใช้งานง่าย จับถือสะดวกสบาย และเหมาะกับเบียร์หลากหลายประเภท ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศไม่ว่าจะ เป็นเยอรมัน อังกฤษ และอเมริกา ความหนาของตัวแก้วจะช่วยรักษาความเย็นของตัวแก้ว และการที่มันมีด้ามจับทำให้เราไม่ต้องใช้มืออุ่นๆ ในการจับแก้ว รักษาอุณหภูมิเพิ่มไปอีก เหมาะใช้กับเบียร์ประเภท American Lagers, English Ales และ German Lagers
4. Snifters
แก้วที่มีรูปทรงคล้ายแก้วบรั่นดี ด้วยรูปร่างเหมือนกระเปาะ มีขนาดอ้วน ๆ ก้านเล็ก แก้วรูปแบบนี้มีข้อดีหลัก ๆ คือ การขับกลิ่นที่ซ่อนอยู่ของเบียร์ให้ออกมา ทำให้เป็นแก้วเบียร์ที่เหมาะสำหรับเบียร์สายหนัก อย่าง double IPA / barrel-aged stout หรือ นำไปใช้กับเบียร์สายเบลเยียมก็ได้เช่นกัน เหมาะสำหรับร้านเบียร์ที่ขายเบียร์สายหนัก หรือ เบียร์ที่มีความเข้มข้นเป็นพิเศษ
5. Goblet
Goblet หรือ Chalice เป็นแก้วที่เราจะได้เห็นสีสันของเบียร์ที่ดูสวยงาม มีการออกแบบที่ทำให้ฟองของเบียร์ได้ความหนาที่พอดี ไม่ เยอะ ไม่น้อยจนเกินไป ตัวแก้วจะมีลักษณะใหญ่เหมือนชาม เหมาะกับเบียร์ประเภท Belgian ale, Belgian IPA, Imperial IPA or Stout และ German Bocks
6. Tulip
แก้วนี้สาวๆ อาจจะชอบ Tulip ซึ่ง Tulip นั้นจะช่วยขับกลิ่นของ Hop และ Malt ในเบียร์ออกมามีลักษณะคล้ายคลึงกับ Goblet และ Snitfer มากทีเดียว ใน ขณะเดียวกันก็มีแก้วอีกประเภทที่คล้ายๆ กับ Tulip คือ Thistle ซึ่งไว้ใช้ดื่มกับเบียร์แบบ Scottish Ale ส่วน Tulip นั้น เหมาะกับเบียร์เข้มๆ อย่าง Double / Imperial IPA, Belgian Strong Dark Ale, Belgian Strong Pale Ale เน้นใช้กับเบียร์ที่ค่อนข้างสตรอง!
7. Weizen
เป็นแก้วอีกหนึ่งแบบที่เราเห็นได้ทั่วไป แล้วก็มีลักษณะใกล้เคียงกับ Plisner แต่จะมีความอ้วนที่ปากแก้ว เริ่มแรกแก้วชนิดนี้ทำขึ้นเพื่อ wheat beer (Weizenbier) ปากแก้วช่วยทําให้เกิดฟองหนานุ่มสร้างกลิ่นของ wheat beer เพิ่มอรรถรสให้กับการดื่ม เหมาะกับ เบียร์ Hefeweizen, Kristalweizen, Weizenbock, Dunkelweizen และ พวก wheat ale
8. Krug
แก้วแบบนี้ มีรูปลักษณ์ที่ดูเป็นพิเศษ มีความโค้งมน เหมาะสำหรับการใช้กับการดื่มเบียร์คลาสสิก แถบยุโรปตอนกลาง เป็นแก้วเบียร์ที่มีสไตล์มาก บ้างใบก็ทำจากหิน บางใบก็เป็นเซรามิก ลักษณะเด่นอีกอย่างก็คือ สามารถป้องกันไม่ให้แมลงบินตกลงไป
9. Nonic
หรือที่รู้จักกันในชื่อ Pint Glass เป็นแก้วเบียร์สวยๆ สุดสามัญขั้นพื้นฐานที่นักดื่มเลือกใช้ ตามข้อมูลที่เราศึกษามา Nonic คือเป็นแก้วแบบ English Style ส่วน Pint Glass เป็นแก้วแบบ American Style ความแตกต่างจะอยู่ตรงที่ Nonic จะมีส่วนโค้งเว้าสไลด์เข้าไปในปากแก้ว โดยแก้วทั้งสองแบบนั้นเหมาะใช้ กับเบียร์ lager ถ้าอย่าง Pint ก็จะใช้กับ IPA และ Stout ด้วย ส่วน Nonic ก็จะใช้กับ English Ale นั่นเอง
10. Specialty Glasses : Beer Boot
เป็น แก้วเบียร์ยอดนิยม ตามบาร์ในเยอรมัน เพราะมันดูจะเป็นแก้วที่ท้าทายนักดื่มแก้วเบียร์ใหญ่ เพราะมีฟองอากาศ ใครเห็นก็อยากจะลอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.sanook.com/men/15761/
Casa Mio Music & Wine Bar มีเบียร์ Hoegaarden Original & Rosé แบบสด และไวน์เลิศรส พร้อมกับอาหารอร่อย พร้อมเสิร์ฟความอร่อยทุกจาน ความสุขเติมได้ไม่จำกัด
ข้อมูลเพิ่มเติม และจองโต๊ะ
เชียงราย 0956809494
พะเยา 0970985917
4 เหตุผลที่ไวน์บนเครื่องบินมีรสชาติแย่ลง
อากาศบนเครื่องบินนั้นแห้ง