ทำไมถึงไม่ควรดื่มเหล้าเบียร์ตอนท้องว่าง

ท้องว่างแอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมผ่านเยื่อบุกระเพาะอาหารเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง จึงทำให้เมาและง่วงซึมได้ไว อาการเมาค้าง มีผลกระทบต่อร่างกายหลายระบบ นำไปสู่ โรคตับแข็ง สมองเสื่อม วิตามินบีรวม น้ำขิง ชาเปปเปอร์มินต์ สามารถช่วยบรรเทาอาการเมาค้างได้!!

เตรียมพร้อมก่อนปาร์ตี้

เชื่อได้ว่าทุกคน คงเคยได้ยินคำบอกว่า “อย่าดื่มเบียร์ตอนท้องว่าง” หรือว่า “ดื่มเบียร์ตอนท้องว่างแล้วจะเมาเร็ว” กันแน่นอน ซึ่งเราก็เช่นกัน และสำหรับใครที่สงสัยว่า ทำไมดื่มเบียร์ตอนท้องว่างแล้วเมาเร็ว เรามาหาคำตอบกัน เมื่อเราทานอาหารเข้าไป อาหารจะถูกลำเลียงไปที่กระเพาะอาหาร ในกระเพาะอาหารนี้จะเอ็นไซม์ช่วยย่อยอาหาร จากนั้นก็จะส่งต่อไปที่ลำไส้เล็ก ซึ่งกระบวนการดูดซึมสารอาหารจะเกิดขึ้นมากที่สุดที่ลำไส้เล็ก 

 

ทำไมถึงไม่ควรดื่มเหล้าเบียร์ตอนท้องว่าง เพราะ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เช่นเดียวกัน เมื่อเราบริโภคแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดตอนที่อยู่ในกระเพาะเพียงแค่ 5-10% เท่านั้น และที่เหลือ 90-95% จะถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็ก เมื่อกระเพาะของเราสามารถดูดซึมแอลกอฮอล์ได้เพียงแค่ 5-10% หมายความว่าหากชะลอให้แอลกอฮอล์ตกถึงลำไส้เล็กได้ช้า ก็จะทำให้แอลกอฮอล์ถูกดูดซึมช้าลง แล้วเราจะทำอย่างไรให้แอลกอฮอล์อยู่ในกระเพาะให้ได้นานที่สุด

อย่าปล่อยให้ท้องว่าง

แอลกอฮอล์ดูดซึมได้มากสุดที่ส่วนต้นของลำไส้เล็ก การดูดซึมจะถูกกระตุ้นให้รวดเร็วขึ้นได้หากท้องว่างหรือมีการดื่มพร้อมกับเครื่องดื่มน้ำอัดลมหรือโซดา ขณะที่ท้องว่างแอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมผ่านเยื่อบุกระเพาะอาหารเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง จึงทำให้เมาและง่วงซึมได้ไว

ทานน้ำผักผลไม้หรือวิตามินบีรวมเพื่อลดการสูญเสียวิตามิน

ฮอร์โมนและเอนไซม์หลายชนิดถูกยับยั้งด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ที่สำคัญคือ ฮอร์โมน Antidiuretic (ADH) ที่ควบคุมไตให้ดูดน้ำกลับ เมื่อฮอร์โมน ADH ถูกยับยั้งทำให้ไตไม่ดูดน้ำกลับ เราจึงปัสสาวะบ่อยขึ้น ทำให้ยิ่งสูญเสียน้ำและเกลือแร่จำนวนมากจนมีอาการอ่อนเพลียได้ การขาดวิตามินที่พบมากหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ คือ วิตามินเอ บี1 บี3 บี6 โฟเลท วิตามินอี และแร่ธาตุซีลีเนียม

ดื่มน้ำตามทุก 1 ชั่วโมง

จากเหตุผลในข้อ 2 ที่เราต้องทดแทนน้ำที่เสียไปจากปัสสาวะ และลดความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดไม่ให้มากจนเกินไป

ดื่มมากไป ตัดสินใจผิดพลาด

แอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนที่ควบคุมการตัดสินใจผิดถูก ส่วนที่คอยยับยั้งการกระทำที่เจ้าตัวคิดว่าไม่ถูกไม่ควรทั้งหลายไว้ เมื่อส่วนนี้โดนกดไว้ อาจเห็นหลายคนมีพฤติกรรมที่คึกคะนอง กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ หรือสิ่งที่อาจเก็บกดไว้ออกมา ดังนั้นจึงควรดื่มพอประมาณ

 

ดื่มมากไป ตัดสินใจผิดพลาด

แอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนที่ควบคุมการตัดสินใจผิดถูก ส่วนที่คอยยับยั้งการกระทำที่เจ้าตัวคิดว่าไม่ถูกไม่ควรทั้งหลายไว้ เมื่อส่วนนี้โดนกดไว้ อาจเห็นหลายคนมีพฤติกรรมที่คึกคะนอง กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ หรือสิ่งที่อาจเก็บกดไว้ออกมา ดังนั้นจึงควรดื่มพอประมาณดื่มพอประมาณ

ทางการแพทย์ให้ผู้ชายดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกิน 3 หน่วยต่อวัน ผู้หญิงได้ไม่เกิน 2 หน่วยต่อวัน ในรายที่พบว่าไม่มีโรคตับ

(ปริมาณแอลกอฮอล์ 1 หน่วย = การดื่มแอลกอฮอล์ 12 – 15 กรัม เช่น ไวน์ 120 ซีซี, เบียร์ 360 ซีซี, วิสกี้หรือวอดก้า 30 ซีซี)

เวลาในการย่อยอาหาร

ฟื้นฟูหลังปาร์ตี้

หลังปาร์ตี้อันหนักหน่วง หลายคนจะมีอาการเมาค้าง เพราะร่างกายนำ อะเซทัลดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารพิษรุนแรงต่อร่างกายไปย่อยเป็นกรดอะซิติกไม่ทัน นำมาสู่อาการอันไม่พึงประสงค์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นหลังจากสร่างเมาแล้ว เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ เสียการทรงตัว หิวน้ำ ปากแห้ง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว เราจึงขอเสนอวิธีแก้เบื้องต้นดังนี้

 

  1. ดื่มน้ำให้มาก หรือหาอาหารรองท้อง จะช่วยลดอาการเมาค้างได้
  2. หากมีอาการปวดหัว สามารถทานยาแก้ปวด ลดไข้ได้
  3. หากมีอาการคลื่นไส้ สามารถทานน้ำขิงอุ่นๆ หรือชาเปปเปอร์มินต์ จะช่วยลดอาการนี้ได้
  4. เติมวิตามินแร่ธาตุให้ร่างกาย จากน้ำผักผลไม้ วิตามินบีรวม หรือวิตามินรวม
  5. เพิ่มการสร้างกลูตาไธโอนในตับ ด้วย สารสกัดจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากดอกมิลค์ทิสเทิล กรดอะมิโนเอ็นอะซิติลซีสเทอีน
    อะโวคาโด หน่อไม้ฝรั่ง เพื่อฟื้นฟูเซลล์ตับและเร่งการกำจัดสารตกค้างที่ทำให้มีอาการเมาค้าง
  6. หากง่วง สามารถดื่มกาแฟได้ เพราะคาเฟอีนในกาแฟทำให้ร่างกายตื่นตัวมากขึ้น

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://www.samitivejhospitals.com

https://www.beerjaa.com