เหล่าคอเบียร์ทั้งหลายต้องรู้ ! เราไปดูเบียร์ของแต่ละประเทศกันดีกว่าว่ามีเบียร์อะไรที่ขึ้นชื่อบ้าง แล้วมีที่มาที่ไปอย่างไร จะได้คุยโม้กับเพื่อน ๆ แบบเซียนเหมือนโตมาในถังเบียร์
1. Indonesian Beer
อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่ประชากรกว่าครึ่งนับถือศาสนามุสลิม ส่งผลให้ประชากรเพียง 3% ของประเทศที่สามารถบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่อัตราที่ต่ำนี้กลับไม่ได้ช่วยลดขนาดของตลาดเบียร์ให้เล็กลงกว่าประเทศอื่น เนื่องจากอินโดนีเซียมีอุตสาหกรรมท่องเที่ยวขนาดใหญ่เข้ามาทดแทน ซาน มิเกล ของฟิลิปปินส์ เป็นผู้เล่นรายสำคัญในตลาดเบียร์อินโดนีเซีย รวมทั้งผู้ผลิตเบียร์ท้องถิ่นอย่างแบรนด์ Anker, Bali Hai และ Bintang ซึ่งไฮเนเก้นของเนเธอร์แลนด์เป็นเจ้าของ
- Anker เป็นเบียร์ที่มีดีกรีแอลกอฮอล์ไม่สูงมากประมาณ 5% รสชาติหวานแต่รู้สึกคล่องคอ ผลิตในโรงงานเดียวกับ Bali Hai และซาน มิเกล
- Bali Hai มีดีกรีแอลกอฮอล์ประมาณ 5% เช่นเดียวกับ Anker แต่ไม่มีฟองมากนัก ซึ่งแตกต่างจากเบียร์อินโดนีเซียอื่น ๆ และมีรสชาติหวานไม่มากนัก
- Bintang เนื่องจากมีไฮเนเก้นเป็นเจ้าของ Bintang มีรสชาติไม่ต่างจากไฮเนเก้นมากนัก รวมถึงรูปลักษณ์ภายนอกอย่างเช่น ขวด และมีดีกรีแอลกอฮอล์ประมาณ 5% นอกจากนี้ Bintang ยังได้ปล่อยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทใหม่สู่ตลาดในชื่อแบรนด์ Green Sands ซึ่งมีรสชาติคล้ายเบียร์ที่ผสมมะนาวและมีดีกรีแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 1%
- San Miguel ซาน มิเกล เป็นบริษัทเบียร์ในฟิลิปปินส์ที่เข้ามาลงทุนผลิตเบียร์ในอินโดนีเซีย ซึ่งทำให้ซาน มิเกล ที่นี่มีรสชาติเหมือนกับซาน มิเกล ในฟิลิปปินส์ ซานมิเกล เป็นผู้เล่นใหญ่สุดในตลาดเบียร์ปัจจุบัน และเป็นคู่แข่งคนสำคัญของเบียร์อื่น ๆ ในอินโดนีเซีย โดยมีดีกรีแอลกอฮอล์ 5% และมีรสขมเล็กน้อย
2. Laotian Beer
สองสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ควบคุมตลาดของลาวในปัจจุบัน คือ เหล้าหมักจากข้าวแบรนด์ Lao Lao และ Beerlao ผลิตภัณฑ์เบียร์ที่ผลิตโดย Lao Brewing Company ตั้งแต่ปี 1973 โดยมีส่วนแบ่งสูงถึง 99% ของตลาด
นอกจากประเทศลาวแล้ว เบียร์ลาวยังสามารถหาซื้อได้ทั่วเอเชียแปซิฟิก และในสหราชอาณาจักร ก่อนหน้านี้ Lao Brewing Company ยังเคยผลิตเบียร์ชื่อ 33 Export สำหรับส่งออกขายนอกประเทศโดยเฉพาะ แต่หยุดผลิตเมื่อช่วงปลายของทศวรรษที่ 90
- Beerlao Lager ส่วนใหญ่มักเรียกสั้น ๆ ว่า Beerlao เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ยังคงความดั้งเดิมไว้ก่อนที่เบียร์แบบ Light และ Dark จะเปิดตัว เป็นเบียร์ที่สร้างความสดชื่นให้กับผู้ดื่มได้อย่างมากด้วยสีทองอำพัน และไม่ค่อยมีฟองมากนัก มีดีกรีแอลกอฮอล์ 5% จำหน่ายในกระป๋องขนาด 330 มิลลิลิตร และขวดขนาด 640 มิลลิลิตร
- ส่วน Beerlao Light มีดีกรีแอลกอฮอล์เพียง 2.9% ขณะที่ Beerlao Dark มีดีกรีแอลกอฮอล์สูงถึง 6.5% และมีสีเหลืองอำพันมากกว่า Dark Beer ทั่วไป
3. Malaysian Beer
ตลาดเบียร์ของมาเลเซียค่อนข้างต่างจากที่อื่น เพราะเบียร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในมาเลเซียเป็นของบริษัทต่างชาติ อย่างเช่น คาร์ลสเบิร์กจากเดนมาร์ก และ Anchor Beer ของไฮเนเก้นที่ผลิตจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์
ส่วนเบียร์จากประเทศอื่นในเอเชียก็ผลิตเบียร์และจัดจำหน่ายในมาเลเซียโดยเฉพาะ อย่างเช่น สิงห์และลีโอของไทย หรือซาน มิเกล ของฟิลิปปินส์
เบียร์ในรูปแบบขวดเป็นที่นิยมมากสุดในมาเลเซีย โดยดราฟท์เบียร์มีส่วนแบ่งในตลาดเพียง 12% เท่านั้น ส่วนเบียร์ที่ได้รับความนิยมรองลงมาคือเบียร์กระป๋องที่ผสมกับมะนาว
- Tiger Beer ต้นกำเนิดไทเกอร์ เบียร์ อยู่ที่สิงคโปร์ แต่ก็มีแหล่งผลิตอยู่ในประเทศมาเลเซีย เพื่อป้อนตลาดมาเลเซียโดยเฉพาะ ไทเกอร์กลายเป็นเบียร์ที่ได้รับความนิยมทั่วเอเชีย เนื่องจากบริษัทเจ้าของไทเกอร์ได้ตั้งโรงงานไว้ทั่วภูมิภาค
4. Philippine Beer
เบียร์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คนฟิลิปปินส์ชื่นชอบมากที่สุด และยังเป็นประเทศที่มี ซาน มิเกล โรงงานผลิตเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งอยู่อีกด้วย
ซาน มิเกล จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 1890 โดยชาวสเปน หลังจากนั้นเป็นต้นมา ซาน มิเกลได้เติบโตจนเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ และเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเบียร์หลายแห่ง รวมถึง Anker ในอินโดนีเซีย และ Jame Boag ในออสเตรเลีย
- San Miguel ซาน มิเกล ผลิตเบียร์หลากหลายเซกเมนต์ในฟิลิปปินส์ ประกอบด้วย San Miguel Pale Pilsner, Super Dry, Strong Ice, Red Horse และ Gold Eagle แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ แบรนด์ Pale Pilsner ที่ค่อนข้างเบากว่าแบรนด์อื่น
- Colt 45 ผลิตโดย Asia Brewery ซึ่งได้รับการอนุญาตให้ผลิตเช่นเดียวกับเบียร์ Lone Star, Stag และ Carlsberg หลายคนบอกว่า Colt 45 ที่มีดีกรีแอลกอฮอล์ 6.5% นั้นค่อนข้างนุ่มและดื่มง่าย เมื่อเทียบกับที่ผลิตในอเมริกา
- Beer Na Beer เบียร์ดีกรีแอลกอฮอล์ 6% นี้ค่อนข้างเป็นเบียร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากค่าย Asia Brewery โดยมีรสชาตินุ่ม และตั้งราคาขายที่เหมาะสมกับค่าครองชีพของคนฟิลิปปินส์ และได้รับความนิยมในบาร์มาก
5. Vietnamese Beer
เบียร์ที่ดังที่สุดในเวียดนามเป็นที่รู้จักในชื่อ Bia Hoi ซึ่งหมายถึง เบียร์สด และถูกผลิตขึ้นในโรงเบียร์กว่า 300 แห่งทั้งขนาดใหญ่และเล็กที่กระจายอยู่รอบประเทศเวียดนาม
- Bia Hoi ไม่ได้ใส่สารกันบูด และมักบริโภคในวันที่ผลิต หาซื้อได้ทั่วประเทศทั้งในบาร์ คาเฟ่ แม้กระทั่งรถเข็นขายของข้างถนน มักจัดจำหน่ายมาในรูปของถังขนาด 100 บาร์เรล ก่อนที่จะขายปลีกโดยใส่ในบรรจุภัณฑ์พลาสติกขนาดย่อม ซี่งมีจากการประเมินคาดว่า Bia Hoi ขายได้วันละ 300,000 – 400,000 ลิตร ในทางกลับกันเบียร์แบบกระป๋องก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีราคาจำหน่ายที่สูงกว่า โดยแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากสุด ได้แก่ 333 และ Hue Beer
- 333 ผลิตโดย Saigon Beer Co ซึ่งยังผลิตเบียร์ในชื่อแบรนด์ Saigon Lager และ Saigon Export โดยเบียร์ 333 เริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1893 ซึ่งเป็นผลงานการพัฒนาของฝรั่งเศส ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น 33 และเปลี่ยนกลับเป็น 333 อีกครั้งในปี 1975
- Hue Beer เบียร์ดีกรีแอลกอฮอล์ 5.0% ผลิตโดย Hue Brewery ซึ่งมีเบียร์คาร์ลสเบิร์กเป็นเจ้าของ จุดเด่นอยู่ที่สีเหลืองอำพัน ฟองเบียร์ที่หายไปอย่างรวดเร็วหลังจากรินออกจากขวดไม่นาน และมีกลิ่นหอมของข้าว นอกจาก Hue Beer แล้ว บริษัทนี้ยังผลิต Festival Beer สำหรับตลาดเวียดนามอีกด้วย
6. Taiwanese Beer
ตลาดเบียร์ที่นี่ถูกครอบครองโดยแบรนด์ Taiwan Beer มาอย่างยาวนาน ซึ่งผลิตโดย Taiwan Tobacco and Liquor เป็นองค์กรของรัฐ มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 99% มีกำลังการผลิต 35 ล้านลิตรต่อเดือน เป็นผลจากกกฎหมายการนำเข้าที่เข้มงวด
ในปี 1987 เบียร์นำเข้าได้รับการอนุญาตให้เข้าไปขายในประเทศ และในปี 2002 เบียร์นำเข้าก็แย่งส่วนแบ่งตลาดมาจาก Taiwan Beer ได้มากถึง 30% ทำให้ Taiwan Beer ต้องเร่งปรับตัวอย่างหนัก ด้วยการออกแคมเปญเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ดื่มที่อายุน้อยลง และออกเบียร์ในเซ็กเมนต์พรีเมียมในชื่อ Gold Medal Taiwan Beer แต่ถึงอย่างไร Taiwan Beer เบียร์สไตล์เยอรมันที่มีดีกรีแอลกอฮอล์ 4.5% ยังคงเป็นที่นิยมสูงสุดในไต้หวัน
7. Japanese Beer
เบียร์เริ่มเป็นที่รู้จักของคนญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1870 โดยคนอเมริกันที่ชื่อ William Copeland ผู้ซึ่งตั้งบริษัท Spring Valley Brewery ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Kirin ในปัจจุบัน มีโรงเบียร์ขนาดเล็กนับร้อยทั่วประเทศเพื่อผลิตเบียร์รองรับตลาด
- Asahi Super Dry อาซาฮี เป็นเบียร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด และมียอดขายติดอันดับ 4 เบียร์ที่ขายดีที่สุดทั่วโลก โดยอาซาฮีอ้างว่าเป็นคนแรกในโลกที่ผลิตดรายเบียร์ โดยมีสีเหลืองอ่อน และฟองนุ่ม
- Kirin Ichiban คิรินผลิตเบียร์หลากหลายรูปแบบ แต่ที่โด่งดังที่สุด คือ Kirin Ichiban ที่มีดีกรีแอลกอฮอล์อยู่ที่ 5% และมีรสชาติค่อนข้างอ่อนนุ่ม
- Orion Draft Orion Draft เป็นเบียร์ที่ผลิตและขายเฉพาะในเกาะโอกินาว่าเท่านั้น โดย Orion Breweries แต่ไม่กี่ปีมานี้ได้ถูกผลิตและทำตลาดโดย Asahi Breweries ในพื้นที่อื่น ๆ ของญี่ปุ่นในชื่อ Asahi Orion Draft Beer
8.Indian Beer
เดิมอัตราการบริโภคเบียร์ในอินเดียค่อนข้างต่ำ เฉลี่ยครึ่งลิตรต่อคนต่อปี แต่ด้วยอัตราการเพิ่มขึ้นของตลาดเบียร์ในอินเดียอย่างรวดเร็ว ทำให้มีผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ต่างเข้ามาลงทุนที่นี่อย่างมากเพื่อขอเป็นส่วนหนึ่งใน 70 ล้านลังที่ขายได้ในแต่ละปี
นอกจากนี้มีเบียร์อินเดียบางแบรนด์ที่ผลิตขึ้นเพื่อส่งออกโดยเฉพาะ และเป็นที่นิยมมากในร้านอาหารอินเดียน ดังที่สุดคือ “Kingfisher” เบียร์ที่มีดีกรีแอลกอฮอล์ 5.0% นี้มีรสหวานเล็กน้อย ซึ่งจัดจำหน่ายในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก และมีส่วนแบ่งในตลาดเบียร์อินเดีย 40%
- Bangla Premium Beer ด้วยดีกรีแอลกอฮอล์ 5.5% ซึ่งแรงกว่าเบียร์อินเดียอื่น ๆ ทำให้ผู้ดื่ม Bangla สามารถซึมซับรสชาติได้อย่างเต็มที่ด้วยสัมผัสที่เนียนนุ่ม ซึ่งเข้ากันได้ดีกับอาหารอินเดียรสเผ็ดร้อน
- Cobra เป็นเบียร์สไตล์อินเดียรูปแบบใหม่ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1989 โดยครอบครัวชาวอินเดียที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ เพื่อผลิตเบียร์สไตล์อินเดียที่ไม่ค่อยมีก๊าซมากนัก โดยเริ่มต้นผลิตจากโรงงานในบังกาลอร์ ก่อนย้ายไปอังกฤษ และกลับมาตั้งโรงงานที่อินเดียอีกครั้ง กว่าครึ่งของ Cobra ที่ผลิตได้ขายในร้านอาหารอินเดียที่ประเทศอังกฤษ
9. Chinese Beer
ด้วยประชากรที่มากที่สุดในโลก ไม่น่าแปลกใจที่ตลาดเบียร์ในจีนจะเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลกเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันที่จีนมีโรงเบียร์กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศทั้งรายใหญ่ รายย่อยเกือบพันแห่ง โดยเบียร์ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากการแถบยุโรป
อย่างไรก็ตาม เบียร์สัญชาติจีนเหล่านี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศมากนัก และสามารถหาซื้อได้ตามร้านเฉพาะ หรือร้านอาหารจีน แต่เบียร์จีนที่ดังนอกประเทศมากที่สุด คือ Tsing Tao ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1903 โดยนักธุรกิจชาวเยอรมันที่เมือง Qingdao ในประเทศจีน ซึ่งใช้น้ำพุธรรมชาติจากบริเวณเทือกเขา Laoshan ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความบริสุทธิ์ของน้ำในการผลิต มีดีกรีแอลกอฮอล์ 4.5% กลิ่นหอมและรสชาติที่กลมกล่อม
- อีกหนึ่ง Chinese Ginseng Beer เบียร์ประเภทนี้หาได้ยากนอกภูมิภาคเอเชีย มีกลิ่นหอมของสมุนไพร พร้อมกับรสสัมผัสของขิง และไซตรัส ด้วยดีกรีแอลกอฮอล์ 4.7%
ข้อมูลอ้างอิงจาก
เรื่องไม่น่าเชื่อ เกี่ยวกับไวน์โรเซ่ที่คุณไม่รู้
โรเซ่ ไวน์สีชมพูสวยที่หลา
เซ็กต์ ไวน์ ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องบนเตียง
เซ็กต์ ไวน์ (Sekt Wine) ค
Second Wine ทางเลือกหนึ่งที่ทำให้คุณสัมผัสไวน์ท็อปเกรด
Second Wine แปลตรงตัวได้ว
Grape Stomping การย่ำเท้าลงบนองุ่น เพื่อทำไวน์
‘Grape Stomping’ หรือ Pig