ไวน์

อุณหภูมิห้องของคนในไอซ์แลนด์ช่วงฤดูหนาว กับคนในกรุงเทพฯ กลางเดือนเมษายน แน่นอนว่าไม่ใช่อุณหภูมิเดียวกันเสียเมื่อไร ดังนั้นคำว่า ‘เสิร์ฟไวน์ตามอุณหภูมิห้อง’ จึงไม่ถูกเสมอไป เมื่อเปิดขวดไวน์ อย่าเพิ่งรินใส่แก้วโดยทันที โดยเฉพาะไวน์ขาวที่เมื่อเปิดทิ้งเอาไว้สักครู่จะได้ทั้งรสและกลิ่นที่ชัดเจนยิ่งขึ้นหลังจากเจอกับอากาศที่ทำปฏิกิริยากับน้ำไวน์

ไวน์นะไม่ใช่เบียร์วุ้น

เรารู้กันดีว่าไวน์ขาวนั้นจะอร่อยที่สุดเมื่อเสิร์ฟแบบเย็น แต่จะต้องเย็นเจี๊ยบแค่ไหนถึงจะโอชาเป็นเลิศ หลายคนถึงกับแช่จนกลายเป็นเบียร์วุ้น แต่นั่นอาจไม่ได้ทำให้ไวน์อร่อยขึ้นเสมอไป (แม้เราจะรู้ว่าอากาศอบอ้าวแค่ไหนก็เถอะ!) แต่หารู้ไม่ว่าเมื่อเย็นเกินไป ไวน์จะสูญเสียกลิ่นหอมตามธรรมชาติจนเสียความอร่อย และไวน์ขาวจะอร่อยที่สุดที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำกว่านั้นได้สำหรับไวน์ที่เป็นฟูลบอดี้ (Full Body) และอุ่นกว่านั้นได้เล็กน้อยสำหรับไวน์แบบไลต์บอดี้ (Light Body) ส่วนแชมเปญหรือสปาร์กลิงไวน์ควรอยู่ที่อุณหภูมิ 7-8 องศาฯ

ไม่ต้องรินใส่ดีแคนเตอร์เสมอไป

จำได้ไหมที่เราเคยบอกว่าดีแคนเตอร์เป็นเพื่อนสนิทไวน์แดง ทั้งยังต้องปล่อยทิ้งเอาไว้สักหน่อยเพื่อให้ไวน์ได้ ‘หายใจ’ เพื่อรสเลิศและกลิ่นหอมละมุนของไวน์ได้ปล่อยออกมาอย่างเต็มพลัง แต่หารู้ไม่ว่าอาจไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเสมอไป โดยเฉพาะกับไวน์ที่มีอายุมาก เนื่องจากดีแคนเตอร์เปิดทางให้ไวน์อายุน้อยได้แสดงลักษณะเฉพาะตัวออกมาทั้งกลิ่นและรสชาติให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่กับไวน์เก่าอาจทำให้เกิดการตกตะกอนขึ้น จนไม่ควรเทใส่แก้วของคุณ (หรือของแขกคนพิเศษ) เพราะสีอาจขุ่นและมีตะกอนภายใน จนเพื่อนๆ ถามว่า “ไวน์แกยังดื่มได้ชัวร์ใช่ไหม” ก็เป็นได้

ไวน์แดงเสิร์ฟตามอุณหภูมิห้อง

อีกสิ่งที่คนดื่มไวน์คุ้นเคยคือ ‘การเสิร์ฟไวน์แดงตามอุณหภูมิห้อง’ แต่เรามั่นใจว่าอุณหภูมิห้องของคนในไอซ์แลนด์ช่วงฤดูหนาว กับคนในกรุงเทพฯ กลางเดือนเมษายนไม่ใช่อุณหภูมิเดียวกันแน่นอน! ดังนั้นคำว่า ‘เสิร์ฟไวน์ตามอุณหภูมิห้อง’ จึงไม่ถูกเสมอไปเมื่อพูดถึงความอร่อย ไวน์แดงที่มีบอดี้แบบไลต์กว่า อาทิ ปิโนต์ ซินแฟนเดล และพอร์ตไวน์ ควรจะเสิร์ฟด้วยอุณหภูมิ 13-16 องศาฯ ดังนั้นอย่าเพิ่งเดินเข้าบ้านเหนื่อยๆ แล้วเปิดขวดไวน์อุ่นๆ ที่วางเอาไว้บนชั้น โปรดแช่ไว้สักนิด เพื่อความอร่อยขั้นสุด จำไว้ว่า #ไวน์แดงก็แช่ได้

ไม่ต้องล้างแก้ว

ช้าก่อน เราไม่ได้หมายถึงว่าคุณต้องเอจไวน์ที่กินค้างอยู่ในแก้ว หรือบอกว่าไม่จำเป็นต้องล้างแก้ว! เพราะสังเกตไหมโดยเฉพาะเมื่อรีบๆ เราอาจเช็ดแก้วไม่หมด จนเหลือน้ำสักหยดสองหยดในแก้ว และเจ้าหยดน้ำนั่นเองที่อาจไปทำให้น้ำไวน์เจือจาง แม้จะหยดสองหยดก็ตาม สิ่งนี้ก็อาจทำให้ไวน์ไม่อร่อยเท่าที่ควรได้

ให้หายใจหายคอกันบ้าง

คนยังต้องพักผ่อน สเต๊กทำสดใหม่ๆ ก็ต้องพักเพื่อให้ได้รสที่ดีกว่า ไวน์เองก็ไม่ต่างกัน การให้ไวน์ได้หายใจกันบ้างสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นเวลาเปิดขวดไวน์ อย่าเพิ่งรินใส่แก้วในทันที โดยเฉพาะไวน์ขาวที่เมื่อเปิดทิ้งเอาไว้สักครู่จะได้ทั้งรสและกลิ่นที่ชัดเจนยิ่งขึ้นหลังจากเจอกับอากาศที่ทำปฏิกิริยากับน้ำไวน์ หากอยากรู้ว่าจริงไหม ทำไมไม่ลองทดสอบดูล่ะ

ไวน์ก็เหมือนผู้หญิง

จะว่าไปไวน์ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิง เราสามารถอธิบายถึงลักษณะของไวน์ได้ไม่ต่างกับอธิบายถึงเพื่อนสักคน “นางจะดูเชิดๆ หน่อยนะ จนกระทั่งได้เปิดใจทำความรู้จัก” ดังนั้นอย่าคิดเยอะดูที่ความสวยงามของขวดแต่อย่างเดียว เพราะรสไวน์ที่เห็นอาจไม่ตรงกับรูปก็เป็นได้ ข้างนอกดูขรึม ข้างในอาจหวานอมเปรี้ยว ไปจนซ่า จิบแล้วสดชื่น หรือนุ่มลึกแต่ภายนอกดูหน่อมแน้มก็เป็นได้ ส่วนถ้าอยากหาคำตอบว่าจริงแท้แค่ไหน หนทางเดียวคือ ‘ต้องลอง’

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://thestandard.co

https://www.bangkokbiznews.com