ชนิดของไวน์สต๊อปเปอร์ บ่อยครั้งที่เมื่อเริ่มดื่มไวน์แล้วสุดท้ายดื่มไม่หมด หากเก็บไวน์ที่เหลือไวน์ในตู้เย็นไว้ที่เหลือครึ่งค่อนขวดก็มักจะชืด เสียรสชาติ และโน้ตสัมผัสต่างๆ ไปเสียหมด จนอาจต้องเททิ้งเมื่อได้มาดื่มในครั้งต่อไป
ชนิดของไวน์สต๊อปเปอร์
เหตุผลว่าทำไมคุณจะต้องมีไวน์สต๊อปเปอร์ ซึ่งคือเจ้าตัวเก็บรักษาไวน์ที่เหลือในขวด ปิดไว้แทนที่จุกไวน์ ทำให้เกิดเป็นสภาวะสูญญากาศเพื่อรักษากลิ่น และรสสัมผัสของไวน์ รวมถึงไม่ให้กลิ่นต่างๆ ในตู้เย็นเข้ามาผสมมั่วซั่วกับกลิ่นของไวน์ด้วย
Decorative Stopper
- สต๊อปเปอร์ที่เน้นดีไซน์ ตบแต่ง เสริมให้ขวดไวน์ที่เปิดแล้วของคุณดูดีขึ้นไปอีก เป็นที่นิยมในหมู่คนยุคใหม่ และฮิปสเตอร์มาก
Pourer Stoppers
- เป็นสต๊อปเปอร์ยอดนิยมมากๆ สำหรับคอไวน์หลายๆ คน โดยนอกจากตัวปิดปากขวดไวน์แล้ว จะมีดีไซน์ให้สามารถเทออกจากที่ปิดไวน์ได้ทันที ไม่ต้องเปิดก่อนแล้วค่อยเท
Vacuum Preservation Stoppers
- เริ่มได้รับความนิยมขึ้นอย่างต่อเนื่องกับสต๊อปเปอร์สูญญากาศ โดยจะมีระบบที่ไล่อากาศออกจากขวดไวน์ เพื่อทำให้สามารถยืดอายุของไวน์ได้ยาวที่สุด ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นสต๊อปเปอร์ที่ไม่ได้ดีไซน์สวย เตะตา แต่ก็มาพร้อมฟังก์ชั่นที่ดีที่สุด
Champagne stopper
- สต๊อปเปอร์ของแชมเปญ ควรใช้แบบที่มีดีไซน์เฉพาะ ซึ่งจะเป็นตัวที่ปิดแน่นหนากว่าไวน์สต๊อปเปอร์ทั่วไป เพราะการเก็บแชมเปญจะต้องระมัดระวังกว่าด้วยความที่มีการอัดแก๊ส หากอากาศเข้าไปซักแป๊ปเดียวเท่านั้น ฟองอากาศในไวน์ก็จะเสียหายไปหมด จึงควรใช้สต๊อปเปอร์แยกกัน
ไวน์สต๊อปเปอร์มันจำเป็นจริงๆ หรอ? ทำไมไม่ใช้จุกไวน์ (cork) อุดปากไวน์เข้าไปเหมือนเดิมล่ะ? ก็น่าจะได้หนิ’ แต่ไวน์แมนขอบอกเลยนะครับว่าการใช้จุกไวน์อุดเข้าไปอีกครั้งอาจไม่ได้ช่วยป้องกันไวน์จากอากาศภายนอก โดยเฉพาะหากคุณได้เจาะจุกนั้นไปแล้ว แถมยังเสี่ยงกับการที่เศษจุกไวน์จะหลุดลงไปในไวน์อีกด้วย
อ้างอิงข้อมูลจาก
4 เหตุผลที่ไวน์บนเครื่องบินมีรสชาติแย่ลง
05/04/2023
ไม่มีความเห็น
อากาศบนเครื่องบินนั้นแห้ง